ความซับซ้อนของกรรม สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช การเขียนหนังสือด้วยปากกาหรือดินสอลงบนกระดาษแผ่นเดียวนั้น เขียนลงครั้งแรกก็ย่อมอ่านออกง่าย อ่านเข้าใจง่าย แต่ยิ่งเขียนทับเขียนซ้ำลงไปบนกระดาษแผ่นเดียวนั้นตัวหนังสือยิ่งจะทับกันยิ่งขึ้นทุกที การอ่านก็ยิ่งอ่านยากขึ้นทุกทีจนถึงอ่านไม่ออกเลย ไม่เห็นเลยว่าเป็นตัวหนังสือ จะเห็นแต่รอยหมึกหรือรอยดินสอทับกันไปทับกันมา ให้เพียงรู้เท่านั้นว่ามีการเขียนลงบนกระดาษแผ่นนั้นอ่านไม่รู้เรื่อง และไม่รู้ว่าอะไรเขียนก่อนและอะไรเขียนทีหลัง การทำกรรมหรือการทำดีทำชั่วก็เช่นกัน ต่างได้ทำกันมานับภพนับชาติไม่ถ้วนทับถมกันมายิ่งกว่าตัวหนังสือที่เขียนทับจนอ่านไม่ออกและไม่สามารถรู้ว่าอะไรเขียนก่อนอะไรเขียนทีหลัง เหมือนกับการทำกรรมใดไว้ก็ไม่รู้ว่ากรรมใดทำก่อนกรรมใดทำทีหลัง ไม่สามารถรู้และแยกว่าทำอะไรดีมาบ้าง ทำอะไรไม่ดีมาบ้าง ทำดีทำไม่ดีอะไรทำก่อนอะไรทำทีหลังไม่สามารถแยกแยะได้ และทำมากทำน้อยทำหนักทำเบากว่ากันอย่างไร เป็นความซับซ้อนของกรรมที่ทำไว้จนแยกไม่ออกมาหลายภพหลายชาติ เช่นเดียวกับการเขียนหนังสือที่ทับกันไปเรื่อยๆ จนอ่านไม่ออกและไม่รู้ว่าคำไหนเขียนก่อนเขียนทีหลังความซับซ้อนของกรรม แตกต่างจากความซับซ้อนของตัวหนังสือ ตรงที่ตัวหนังสือเมื่อเขียนทับกันมากๆ ย่อมไม่มีทางรู้ว่าเขียนเรื่องดีหรือเขียนเรื่องไม่ดีอย่างไร แต่กรรมนั้นแม้ทำซับซ้อนมากเพียงไร หรือทำกรรมไม่ดีไว้มากน้อยเพียงใด โดยผลที่ปรากฏขึ้นของกรรมนั้นเองเป็นเครื่องช่วยแสดงให้เห็นชีวิตหรือชาตินี้ของทุกคนมีชาติกำเนิดไม่เหมือนกัน เป็นไทยก็มี จีนก็มี แขกก็มี ฝรั่งก็มี เป็นต้น มีชาติตระกูลไม่เหมือนกัน ตระกูลสูงก็มี ตระกูลต่ำก็มี ฐานะต่างกันร่ำรวยก็มี ยากจนก็มี สติปัญญาต่างกัน โง่ก็มี ฉลาดก็มี ความแตกต่างห่างกันนานาประการเหล่านี้ล้วนเป็นเครื่องชี้ให้ผู้เชื่อในกรรมและผลของกรรม เห็นความมีภพชาติในอดีตของแต่ละชีวิตในชาติปัจจุบันที่เกิดมาต่างกันในชาตินี้ เพราะทำกรรมที่ต่างกันไว้ในชาติอดีตความแตกต่างของชีวิตที่สำคัญที่สุดที่แสดงให้เห็นอำนาจที่ใหญ่ที่สุดของกรรม คือความได้ภพชาติของมนุษย์ กับความได้ภพชาติของสัตว์ เป็นต้น แม้เทวดาอาจมาเป็นมนุษย์ได้เป็นสัตว์ก็ได้ มนุษย์อาจเป็นเทวดาได้เป็นสัตว์ได้ สัตว์อาจเป็นเทวดาได้เป็นมนุษย์ได้ ด้วยอำนาจที่ยิ่งใหญ่ของกรรมอันนำให้เกิดนั่นเอง
บทความมีสาระดีค่ะ แต่ยาวไปนิดนึงสำหรับการนั่งอ่านที่หน้าจอคอมพิวเตอร์
ตอบลบ