ห้องสมุดคือมิตร แหล่งคิดค้นคว้า สร้างภูมิปัญญา นำพาวิชาการ

วันพฤหัสบดีที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

เคล็ดลับเพิ่มเสน่ห์ผมสวย3



สิ่งหนึ่งที่สัมพันธ์กับเส้นผมอย่างชนิดที่แยกกันไม่ออก คือ หนังศีรษะ เส้นผมจะอยู่กับหนังศีรษะด้วยดีได้ ก็ต่อเมื่อหนังศีรษะมีสุขภาพดีเท่านั้น และวันนี้เราก็มีเคล็ดลับดี ๆ มาบอก...

1.สปา... นวดผ่อนคลาย
ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตบริเวณหนังศีรษะ โดยวางนิ้วโป้งหลังหู ใช้ปลายนิ้วที่เหลือคลึงวนเป็นวงกลม 3 รอบ กดค้างไว้ 1 นาที เลื่อนตำแหน่งนิ้วไล่ลง ตำแหน่งนิ้วโป้งจะเคลื่อนไปตามแนวกระดูกหลังใบหู คลึงวน กดค้างไปเรื่อย ๆ จนถึงท้ายทอย แต่ละขั้นใช้เวลานวด 3 - 5 นาที ถ้าจะนวดก่อนสระผม ก็ต้องดูว่าไม่มีสิ่งใดติดผมอยู่ เพราะคุณจะรู้สึกไม่สบายหนังศีรษะได้ หรือถ้านวดหลังสระก็เช็ดให้แห้งก่อนนวดนะคะ
2.สระสะอาดทั่วถึง
ไม่ใช้แชมพูที่มีสารรุนแรง เพราะหนังศีรษะจะแห้งมากขึ้น และทำลายเส้นผมได้ง่าย ควรใช้ออยล์จากพืช เช่น น้ำมันมะกอก ถ้าหนังศีรษะมัน ปลายผมแห้งให้เล็มผมสม่ำเสมอราว ๆ ครึ่งนิ้วจากปลายผม เลี่ยงการใช้ไดร์เป่าผม ไม่เป่าผมเกินกว่าสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ถ้าจะเป่าให้เป่าไปที่โคนผมที่มีน้ำมันมากกว่า ถ้าใช้ครีมนวดผมให้ใช้เฉพาะใน ส่วนปลายผมเท่านั้น อย่าลงไปที่หนังศีรษะนะคะ แล้วถ้าจะให้ดีปล่อยให้ผมแห้งเองจะดีกว่าค่ะ
3. สระวันเว้นวัน
ไม่สระผมทุกวัน เพราะจะไปล้างวิตามินบนหนังศีรษะที่หล่อเลี้ยงรากผม เส้นผมจะแห้ง หนังศีรษะจะตึง มัน เพราะไม่มีอาหารไปเลี้ยง หนังศีรษะก็จะดูดอาหารด้านในหนังศีรษะออกมาหล่อลื่นด้านนอก เป็นสาเหตุให้หนังศีรษะมัน แฉะ แต่ด้านในกลับแห้ง เพราะอาหารเส้นผมถูกดูดออกมาข้างนอกหมด เส้นผมก็เริ่มหลุดร่วง ลองดูสิคะ ถ้าถอนเส้นผมแล้วไม่มีตุ่มโคนผมติดอยู่ นั่นก็แสดงว่าเส้นผมคุณแม่ไม่มีอาหารเส้นผมเหลืออยู่ค่ะ
4. เลือกแปรงเหมาะสม
ผมยาว ใช้แปรงขนเหล็กบุยาง ช่วยให้หวีผมไม่พันกัน ป้องกันไฟฟ้าสถิต ถ้าจัดทรงใช้แปรงกลมใหญ่ที่ช่วยให้ปลายผมได้รูปสวย ผมยาวประบ่า ใช้ขนแปรงเรียวเล็ก บุยางด้านหลัง ขนแปรงยาวจะช่วยให้เส้นผมไม่พันกัน ขนแปรงสั้นช่วยให้ผิวเส้นผมเรียบลื่น ผมสั้น ใช้แปรงทรงสี่เหลี่ยม ขนแปรงสั้นยาวสลับกัน ช่วยยกโคนผมให้ไม่ลีบแบน ผมหยักศก ใช้หวีคล้ายคราด ด้ามกว้าง แบน ห่าง เพื่อรักษาสภาพลอนผมให้เป็นทรง ไม่ฟูได้ค่ะ
5.มะนาวช่วยหนังศีรษะ
มะนาวช่วยดูแลสุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะ ให้นุ่มสลวย ไร้รังแค เพราะมีกรดธรรมชาติ ช่วยชำระล้างเซลล์ที่ตายแล้วให้หลุดออกอย่างอ่อนโยน น้ำมันจากมะนาวยังต่อต้านแบคทีเรีย ทำความสะอาดและคืนสมดุลให้กับหนังศีรษะและเส้นผม ช่วยลดความมันได้อีก คุณสามารถผสมน้ำมะนาวกับน้ำ นำมานวดบนหนังศีรษะและเส้นผมด้วยปลายนิ้วเบา ๆ หมักทิ้งไวสัก 2 - 3 ชั่วโมงแล้วล้างออก






8 วิธีเพื่อผมสวยสุขภาพดี

สาว ๆ ที่มีผมแห้งชี้ฟูคงจะหนักใจไม่น้อย เวลาที่เดินไปไหนมาไหนแล้วผมปลิวไปตามลมแต่ดันไม่ยอมทิ้งตัวกลับสู่สภาพเดิมซะอย่างนั้น เฮ้อ.. งานนี้จะทำยังไงดีล่ะเนี่ย อุตส่าห์ใช้ยาสระผมสูตรผมนุ่มก็แล้ว ใช้ทรีทเม้นท์ก็แล้ว ก็ยังไม่มีวี่แววว่าผมจะมีน้ำหนักเสียที อะ ๆ วันนี้กระปุกดอทคอมก็เลยมีวิธีง่าย ๆ มาฝาก อาจจะต้องทำอะไรหลายอย่างหน่อยก็ต้องยอมแล้วนะคะ เพื่อผมสวยสุขภาพดีของคุณนั่นแหละ เอ้า.. ว่าแล้วก็ไปดูกันดีกว่า
1. ใช้เซรั่มทุกครั้งหลังสระผม เพราะเซรั่มเป็นอาหารผมที่เข้มข้นที่สุดในบรรดาผลิตภัณฑ์บำรุงผมต่าง ๆ ดังนั้น ก็เลยเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยล่ะค่ะ โดยคุณอาจจะปรึกษาช่างผมก่อนที่จะเลือกใช้ ว่าเซรั่มตัวไหนดีต่อสภาพผมคุณมากที่สุด ทั้งนี้ก็เพื่อให้คุณได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ถูกกับผมนั่นเองค่ะ
2. ใช้คอนดิชันเนอร์แบบลีฟอิน ซึ่งเป็นคอนดิชันเนอร์ที่ดีต่อผมคุณมาก ๆ เลยล่ะค่ะ อย่างในปัจจุบันนี้ก็มีคอนดิชันเนอร์ลีฟอินหลายชนิดให้เลือกใช้กัน ไม่ว่าจะเป็นแบบสเปรย์หรือว่าโลชั่น ใช้ควบคู่ไปกับเซรั่มจะดีที่สุดนะคะ
3. สระผมด้วยน้ำเย็น ในบางสูตรอาจจะบอกว่าควรสระผมด้วยน้ำอุ่น แต่อ๊ะ ๆ อยากจะบอกเหลือเกินค่ะว่าน้ำอุ่นนั่นแหละเป็นตัวทำให้ผมคุณแห้งมากขึ้นเยอะเลยทีเดียว ดังนั้นหลังจากที่คุณสระผมและหมักผมด้วยคอนดิชันเนอร์แล้ว แนะนำให้คุณล้างผมด้วยน้ำเย็นจะดีกว่า เพราะมันจะทำให้ผมของคุณยังคงความชุ่มชื้นอยู่ และแน่นอน มันทำให้ผมคุณดูมีสุขภาพดีขึ้นได้ค่ะ
4. อย่าเป่าผมด้วยการจี้ไดร์เป่าผมลงไปชิดกับผมนัก เพราะมันทำให้ผมของคุณแห้งชนิดที่เรียกว่าแห้งกรอบเลยล่ะค่ะ อีกทั้งยังทำให้ผมคุณเสีย แตกปลายได้ง่าย ๆ อีกด้วย ดังนั้นหากเป็นไปได้ ควรเป่าผมด้วยลมเย็น หรือลมอุ่น ๆ ดีกว่า ซึ่งไดร์เป่าผมแต่ละตัว สมัยนี้เค้าก็ทำให้มีทั้งลมหลายระดับให้เลือกกันอยู่แล้ว
5. ใช้สเปรย์เพิ่มความเงางามให้เส้นผม เพื่อทำให้ผมของคุณดูสุขภาพดี เงางามค่ะ อ๊ะ แต่ขอแนะนำให้เป็นสเปรย์ที่ช่วยบำรุงผมไปพร้อม ๆ กันด้วยนะคะ เพราะมันจะช่วยปกป้องผมของคุณด้วยล่ะ
6. ดื่มน้ำเยอะ ๆ น้ำนอกจากจะดีต่อสุขภาพร่างกายแล้ว คุณรู้หรือไม่ว่ามันยังดีต่อสุขภาพผมของคุณอีกด้วย เพราะมันเป็นการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผมคุณค่ะ เอ้า ดังนั้นถ้าใครอยากมีผมสวยก็ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ คือประมาณ 6-8 แก้วต่อวันนะคะ
7. กินอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอาหารที่มีวิตามิน A และ E จะทำให้ผมคุณมีน้ำหนักและมีสุขภาพดีขึ้นได้ นอกจากนี้ อย่าลืมทานโปรตีนเพื่อเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเส้นผม ซึ่งอาหารประเภทโปรตีนที่ดีต่อเส้นผม ได้แก่ ไข่และถั่วค่ะ
8. หลีกเลี่ยงสารเคมีแรงจัด ไม่ว่าจะเป็นการดัด ย้อม ทำสี ยืด รวมถึงการใช้ความร้อนสะสมทุกวัน ๆ ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ทำลายสุขภาพผมคุณทั้งนั้นค่ะ อ้อ สารเคมีแรงจัดนี้รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์ด้วยนะคะ ตัวบั่นทอนสุขภาพผมสวยของคุณตัวดีเลยทีเดียว
อย่างไรก็ดี การมีสุขภาพผมที่ดีและมีน้ำหนักนั้น คุณจำเป็นต้องปฏิบัติไปพร้อม ๆ กันทั้ง 8 ข้อเลยนะคะ ฮั่นแน่ ดูเหมือนจะยุ่งยากวุ่นวายใช่มั้ยล่ะ แต่หากลองทำดูจริง ๆ แล้ว จะพบว่าไม่ยากเลยค่ะ เพียงแค่คุณเจียดเวลามาดูแลเส้นผมวันละนิด เพียงเท่านี้ คุณก็จะได้เป็นเจ้าของผมสวยสุขภาพดีแล้วล่ะค่ะ

รู้มั้ยว่า..การกัดเล็บ เป็นโรคชนิดหนึ่ง


รวมแล้วทั้งเด็กและผู้ใหญ่นิยมที่จะกัดเล็บตัวเองมีจำนวนมากกว่า 600 ล้านคน (ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ) และพบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง บางคนนิยมกัดเล็บเท้าของตัวเองด้วย ฟังดูน่าเหลือเชื่อ แต่ก็เป็นความจริง โรคกัดเล็บ หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า Nail Biting มีชื่อในทางการแพทย์ว่า Chronic Onychophagia นั้น สาเหตุส่วนใหญ่เกิดมาจากความเครียด ซึ่งนอกจากจะทำให้เสียบุคลิกภาพแล้ว ยังบ่งบอกให้เห็นว่าคนๆ นั้นเป็นคนขาดความมั่นใจในตัวเอง ขี้อาย และ ไม่กล้าเผชิญหน้ากับความเป็นจริง ถ้าอาการรุนแรงมากอาจจะต้องไปพบจิตแพทย์ แต่ส่วนใหญ่โรคนี้รักษาให้หายขาดได้ด้วยการใช้ยา แต่ต้องอยู่ในการควบคุมของแพทย์ อาทิ ยารักษาอาการของโรคซึมเศร้า ยารักษาโรคจิตเวช ยากลุ่มวิตามินบี การสะกดจิต หรือที่เป็นนิยมอยู่ขณะนี้ในประเทศฮอลแลนด์คือ การใช้ที่ครอบฟัน แบบใส ครอบทั้งฟันล่างและฟันบน ที่สามารถถอดออกได้ขณะรับประทานอาหาร ตัวครอบฟันจะป้องกันการติดเชื้อโรคจากการกัดเล็บ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อไวรัส หรือเชื้อแบคทีเรีย หรือน้ำลายในปากจะกัดผิวหนัง และเยื่อบุเล็บทำให้เกิดแผลที่ผิวหนัง และติดเชื้อโรคได้ง่ายขึ้น

ความซับซ้อนของกรรม


ความซับซ้อนของกรรม สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช การเขียนหนังสือด้วยปากกาหรือดินสอลงบนกระดาษแผ่นเดียวนั้น เขียนลงครั้งแรกก็ย่อมอ่านออกง่าย อ่านเข้าใจง่าย แต่ยิ่งเขียนทับเขียนซ้ำลงไปบนกระดาษแผ่นเดียวนั้นตัวหนังสือยิ่งจะทับกันยิ่งขึ้นทุกที การอ่านก็ยิ่งอ่านยากขึ้นทุกทีจนถึงอ่านไม่ออกเลย ไม่เห็นเลยว่าเป็นตัวหนังสือ จะเห็นแต่รอยหมึกหรือรอยดินสอทับกันไปทับกันมา ให้เพียงรู้เท่านั้นว่ามีการเขียนลงบนกระดาษแผ่นนั้นอ่านไม่รู้เรื่อง และไม่รู้ว่าอะไรเขียนก่อนและอะไรเขียนทีหลัง การทำกรรมหรือการทำดีทำชั่วก็เช่นกัน ต่างได้ทำกันมานับภพนับชาติไม่ถ้วนทับถมกันมายิ่งกว่าตัวหนังสือที่เขียนทับจนอ่านไม่ออกและไม่สามารถรู้ว่าอะไรเขียนก่อนอะไรเขียนทีหลัง เหมือนกับการทำกรรมใดไว้ก็ไม่รู้ว่ากรรมใดทำก่อนกรรมใดทำทีหลัง ไม่สามารถรู้และแยกว่าทำอะไรดีมาบ้าง ทำอะไรไม่ดีมาบ้าง ทำดีทำไม่ดีอะไรทำก่อนอะไรทำทีหลังไม่สามารถแยกแยะได้ และทำมากทำน้อยทำหนักทำเบากว่ากันอย่างไร เป็นความซับซ้อนของกรรมที่ทำไว้จนแยกไม่ออกมาหลายภพหลายชาติ เช่นเดียวกับการเขียนหนังสือที่ทับกันไปเรื่อยๆ จนอ่านไม่ออกและไม่รู้ว่าคำไหนเขียนก่อนเขียนทีหลังความซับซ้อนของกรรม แตกต่างจากความซับซ้อนของตัวหนังสือ ตรงที่ตัวหนังสือเมื่อเขียนทับกันมากๆ ย่อมไม่มีทางรู้ว่าเขียนเรื่องดีหรือเขียนเรื่องไม่ดีอย่างไร แต่กรรมนั้นแม้ทำซับซ้อนมากเพียงไร หรือทำกรรมไม่ดีไว้มากน้อยเพียงใด โดยผลที่ปรากฏขึ้นของกรรมนั้นเองเป็นเครื่องช่วยแสดงให้เห็นชีวิตหรือชาตินี้ของทุกคนมีชาติกำเนิดไม่เหมือนกัน เป็นไทยก็มี จีนก็มี แขกก็มี ฝรั่งก็มี เป็นต้น มีชาติตระกูลไม่เหมือนกัน ตระกูลสูงก็มี ตระกูลต่ำก็มี ฐานะต่างกันร่ำรวยก็มี ยากจนก็มี สติปัญญาต่างกัน โง่ก็มี ฉลาดก็มี ความแตกต่างห่างกันนานาประการเหล่านี้ล้วนเป็นเครื่องชี้ให้ผู้เชื่อในกรรมและผลของกรรม เห็นความมีภพชาติในอดีตของแต่ละชีวิตในชาติปัจจุบันที่เกิดมาต่างกันในชาตินี้ เพราะทำกรรมที่ต่างกันไว้ในชาติอดีตความแตกต่างของชีวิตที่สำคัญที่สุดที่แสดงให้เห็นอำนาจที่ใหญ่ที่สุดของกรรม คือความได้ภพชาติของมนุษย์ กับความได้ภพชาติของสัตว์ เป็นต้น แม้เทวดาอาจมาเป็นมนุษย์ได้เป็นสัตว์ก็ได้ มนุษย์อาจเป็นเทวดาได้เป็นสัตว์ได้ สัตว์อาจเป็นเทวดาได้เป็นมนุษย์ได้ ด้วยอำนาจที่ยิ่งใหญ่ของกรรมอันนำให้เกิดนั่นเอง

วันพุธที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

เตือนภัย : ดื่มน้ำอัดลมหวานๆประจำอาจเสี่ยงกับ มะเร็งของตับอ่อน



วารสารวิชาการ "การระบาดวิทยา ตัววัดความเสี่ยงและการป้องกันมะเร็ง" ของสมาคมวิจัยมะเร็งแห่งอเมริกา รายงานว่า มีการศึกษาพบว่า การดื่มเครื่องดื่มน้ำอัดลมที่มีรสหวาน จะทำให้เสี่ยงกับการเกิดเป็นมะเร็งของตับอ่อน อันเป็นมะเร็งที่ทำให้ถึงตายได้มากที่สุดชนิดหนึ่ง อย่างน่าหวาดหวั่นรายงานผลการศึกษาส่อว่า เพียงแค่ดื่มอาทิตย์ละเพียง 2 หน ก็ทำให้โอกาสที่จะเป็นโรคเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าผู้ช่วยศาสตราจารย์มาร์ค พีไรนา ของโรงเรียนสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมินเนโซตา ผู้เขียนรายงานอาวุโส กล่าวว่า "ระดับน้ำตาลในเครื่องดื่มที่สูง อาจจะไปหนุนระดับอินซูลินในร่างกายให้สูงขึ้น ซึ่งคิดว่ามีส่วนช่วยเป็นปุ๋ยให้เซลล์มะเร็งตับอ่อนเติบโตขึ้น"ผลการศึกษาแจ้งต่อไปว่า "ผู้ที่ดื่มน้ำอัดลมอาทิตย์ละ 2 หนขึ้นไป จะมีอัตราเสี่ยงกับโรคสูงขึ้น เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้ดื่ม ถึงร้อยละ 87 ซึ่งไม่พบลักษณะแบบเดียวกัน เกิดในหมู่ผู้ที่ดื่มน้ำผลไม้คั้น".

วันอาทิตย์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

พี่เลี้ยง...อันตราย

สัญญาณเตือนเมื่อลูกถูกพี่เลี้ยงทำร้าย แม้จะทราบดีอยู่แล้วว่าการให้พี่เลี้ยงดูแลลูกนั้น เป็นความเสี่ยงที่เราไม่ควรอย่างยิ่งที่จะเสี่ยง แต่ด้วยความจำเป็นของชีวิตในปัจจุบัน ทำให้พ่อแม่ ส่วนใหญ่ต้องเลือกใช้บริการพี่เลี้ยง แต่แม้จะปล่อยให้หน้าที่ในการดูแลลูกเป็นของพี่เลี้ยง หากพ่อแม่ใส่ใจอีกนิดและสังเกตดูอีกหน่อย เราจะสามารถป้องกันอันตรายอาจจะเกิดขึ้นได้กับลูก ก่อนที่จะลุกลามเป็นปัญหาใหญ่
1.ลูกโผหาแม่ทันทีหลังจากกลับบ้าน หรือตอนเช้าจะไปทำงานลูกงอแง ไม่อยากให้แม่ไป แต่ต้องไม่ใช่ช่วงแรกของการมีพี่เลี้ยงเพราะเด็กบางคนติดแม่มาก
2. เด็กอยู่กับพี่เลี้ยงแล้วมีอาการหวาดกลัว ไม่พูดคุย ไม่ร่าเริงเหมือนอยู่กับแม่สองต่อสอง
3. พัฒนาการถดถอย งอแงง่าย ช่วยเหลือตัวเองน้อยลง ทำอะไรได้ช้ากว่าวัยที่ควรจะเป็น แต่กรณีนี้ต้องคอยสังเกตอย่างใกล้ชิด เพราะเด็กบางคนอาจจะติดแม่มากต้องดูที่ตัวเด็กด้วย
4. เด็กติดทีวีหรือวิดีโอการ์ตูน เพราะพี่เลี้ยงเปิดให้ดูทั้งวัน มีแผลตามตัวหรือรอยช้ำจ้ำเขียวเป็นประจำ แล้วอย่าลืมเช็กบริเวณในร่มผ้าด้วย เพราะพี่เลี้ยงอาจจะทำร้ายส่วนที่แม่มองไม่เห็น

พิจารณาก่อนเลือกพี่เลี้ยงให้ลูก
1. พิจารณาอายุและการศึกษา นั่นคือมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เพื่อให้มีวุฒิภาวะทางอารมณ์และวิจารณญาณ มีบุคลิกลักษณะและนิสัยรักความสะอาด ละเอียดรอบคอบ ใจเย็น รักเด็กและทนเสียงเด็กร้องได้
2. สิ่งสำคัญจะต้องไว้ใจได้ สามารถวางใจได้ว่าพี่เลี้ยงเด็กจะไม่ทอดทิ้งหรือทำร้ายลูกของเรา มีประสบการณ์ในการดูแลเด็ก มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ไม่มีโรคติดต่อ
3. ก่อนตัดสินใจเลือกใครมาเป็นพี่เลี้ยงของลูกนั้น จำเป็นจะต้องพบปะพูดคุยทัศนคติ คุณสมบัติต่าง ๆ ว่าเหมาะสมหรือไม่
4. หลายครอบครัว เลือกจะใช้พี่เลี้ยงเด็กราคาถูก ซึ่งโดยมากแล้วมักเป็นแรงงานต่างด้าว อาทิ ชาวพม่าหรือกะเหรี่ยง ซึ่งถือเป็นภัยใกล้ตัวในอีกรูปแบบหนึ่งที่เสี่ยง หากจำเป็นต้องเลือกพี่เลี้ยงควรเลือกจากศูนย์บริการที่ไว้ใจได้ทั้งการเลือกพี่เลี้ยงเด็กที่รู้จักหรือรู้ที่มาที่ไปจะดีกว่า

แม้เราจะมีข้ออ้างมากมาย ในการปล่อยให้การเลี้ยงลูกเป็นของพี่เลี้ยงทั้งเรื่องเวลา เรื่องงาน หรือเรื่องภาระค่าใช้จ่ายที่ตามมา หลังการมีบุตรพิจารณากันให้ดีตั้งแต่ต้นอีกสักนิดก่อนว่า การเลี้ยงลูกคนหนึ่งให้ได้ดี และมีคุณภาพนั้น เราพ่อแม่ ต้องมีเวลาในการใส่ใจ การเลี้ยงดู หรือมีความพร้อมในปัจจัยหลายด้านทั้งเวลา ทุนทรัพย์และความพร้อมด้านจิตใจ หากข้อใด ข้อหนึ่งขาดตกบกพร่องไป นั่นอาจจะหมายถึงว่าเราอาจจะยังไม่พร้อมสำหรับการมีลูกก็เป็นได้

เตือนน้ำมังคุด ไม่ได้ช่วยรักษาโรค



อย. ออกโรงเตือนน้ำสกัดจากเปลือกมังคุด หลังมีผู้ป่วยดื่มแล้วเลิก มีอาการแทรกซ้อน ระบุ อย่าหลงเชื่อ คำโฆษณาเกินจริง
น.พ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก สำนักงาน สาธารณสุข จังหวัดหนองคาย ว่า พบผู้ป่วยหญิง อายุ 81 ปี เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ด้วยอาการไข้ ไอ เพลีย ท้องเสีย ถ่ายเป็นมูกเมื่อ ส่งตรวจอุจจาระ พบเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว และเลือดปนในอุจจาระ
จากการซักถามผู้ป่วยพบว่า ดื่มน้ำมังคุดยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งโฆษณาว่ารักษาโรคปวดขา ประมาณเกือบ 1 เดือน อาการปวดขาหาย แต่หลังหยุดดื่ม 2-3 วัน มีอาการปวดทั่วตัว ขยับไม่ได้ ทุรนทุราย แพทย์วินิจฉัยว่า เป็นภาวะไตบกพร่อง และคาดว่า น้ำมังคุดยี่ห้อดังกล่าว อาจมีสารสเตียรอยด์ผสมอยู่ โดยจะมีการสุ่มเก็บตัวอย่าง ส่งวิเคราะห์หาสารสเตียรอยด์ และสิ่งปนเปื้อนอื่นต่อไป
ทั้งนี้ ในมังคุด มีสารแซนโทน (xanthones) ซึ่งมีคุณสมบัติ ต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบ ลดความดันโลหิต ต้านมะเร็ง และแก้แพ้ อย่างไรก็ตาม ยังขาดข้อมูลการทดลองทางคลินิกสนับสนุนว่า การบริโภคมังคุดสามารถมีฤทธิ์รักษาโรคดังกล่าวได้
แต่ที่ต้องระวังคือ ผู้ป่วยที่อยู่ในระหว่างการฉายรังสี ผู้ป่วยที่กำลังใช้ยาคูมาดิน ยาต้านมะเร็ง ผู้ป่วยที่มีภาวการณ์สร้าง เม็ดเลือดแดงมากเกินไป ผู้ป่วยเบาหวาน ผู้ที่กำลังได้รับยารักษาโรคอื่น ๆ เนื่องจาก ยังไม่ทราบถึงการเกิดปฏิกิริยาระหว่าง น้ำมังคุดกับยาที่ได้รับ
ขอเตือนประชาชนผู้บริโภคว่า อย่าหลงเชื่อการโฆษณาโอ้อวด สรรพคุณเกินจริง โดยเฉพาะการหวังผลในการบำบัดรักษา หรือบรรเทาอาการของโรค อาจทำให้เสียเงินและเสียโอกาสในการรักษาที่ถูกต้อง

เมาเรือ ป้องกันได้

1.เลือกที่นั่งให้ดี
ที่นั่งแถบหัวเรือจะทำให้คุณโยกไปข้างหน้าและหลัง (แค่คิดก็เวียนหัวแล้ว) ส่วนที่นั่งริมกาบเรือจะเหมือนเปลไกวซ้าย-ขวา ที่นั่งตรงกลางดูจะเป็นที่ที่สมดุลที่สุด (แต่ก็ควรจะออกมาเจอสายลมมแสงแดดบ้างนะ)
2.อย่าเพิ่งดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ของเหล่านี้จะทำให้ร่างกายขาดน้ำ และเมื่อร่างกายขาดน้ำความเครียดเล็ก ๆ ที่เกิดจากการนั่งเรือจะกลายเป็นปัญหาใหญ่เลยล่ะ จึงต้องไม่ลืมจิบน้ำบ่อย ๆ ด้วยนะ
3.กินขิงสิ
นี่แหละคือยาแก้คลื่นเหียนชั้นเลิศ ไม่ว่าจะเป็นน้ำขิง ลูกอมรสชิง หรือแม้แต่ขิงสด ๆ ซึ่งจะเวิร์กสุด ๆ หากกินก่อนลงเรือค่ะ
4.เมื่อรู้สึกตัวว่าเริ่มเวียนหัว
จงลุกขึ้นไปสัมผัสสายลมและมองไปที่เส้นขอบฟ้า (แม้ว่าใจจริงแล้วคุณอยากจะนอนก็เถอะ)
5.ถ้าเพื่อนร่วมเรือเกิดเมาเรือขึ้นมา
ควรจรลีหนีห่าง เพราะเมื่อเราได้ยิน เห็น หรือแม้แต่ได้กลิ่นอะไรสักอย่าง ประสาทของคุณอาจถูกเตือนว่า "ถึงเวลาเมาเรือแล้วล่ะ" โดยเฉพาะถ้าคุณเมาเรือง่ายอยู่แล้ว นี่คือเวลาตัวใครตัวมันนะจ๊ะ

สัญญาณบอกอาการไส้ติ่งอักเสบ

อาการปวดของไส้ติ่งแบบมาตรฐาน จะเริ่มปวดทั่วๆ บอกตำแหน่งแน่นอนไม่ได้ มักเป็นรอบๆ สะดือ อาจเป็นพักๆ หรือตลอดเวลาก็ได้
แต่โดยทั่วไปมักเป็นแบบตลอดเวลา หลังจากนั้นประมาณ 6-10 ชั่วโมง อาการปวดจะย้ายมาที่บริเวณท้องน้อยด้านขวา ต่ำกว่าสะดือ ปวดตลอดเวลา อาจมีไข้ขึ้น มีเบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย อาการปวดแบบมาตรฐาน (classical symptom) จะพบประมาณ 25% เท่านั้น ส่วนที่เหลืออาจไม่เป็นแบบนี้ เช่น อาจไม่มีย้ายจุดปวด อาจปวดเป็นพักๆ ได้ (กรณีระยะแรก หรือเป็นชนิดที่อยู่หน้าหรือหลังลำไส้เล็ก pre-ileal or post-ileal type) แต่ประเด็นสำคัญคือปวดด้านขวาล่างๆ กดเจ็บ เดินตัวงอ มีเบื่ออาหาร มักปวดตลอดเวลา อาการเบื่ออาหารเป็นอาการที่สำคัญมาก พบเกือบ 100% ฉะนั้น ถ้าปวดท้องแต่ไม่เบื่ออาหาร กินข้าวได้ดี โอกาสเป็นไส้ติ่งอักเสบแทบจะไม่มี ถ้าไส้ติ่งแตก ไข้จะสูงลอย 40 องศา ปวดทั่วท้องทั้งซ้ายและขวา ท้องจะแข็งเกร็งไปหมด เดินไม่ไหว ต้องนอนนิ่งๆ
การรักษา ไม่ว่าไส้ติ่งจะแตกหรือไม่ ต้องทำการผ่าตัดสถานเดียว
ปวดท้องทั่วไปจากโรคอื่นๆ โดยทั่วไป มักปวดเป็นพักๆ
ถ้าเป็นจากโรคแผลในกระเพาะ มักปวดใต้ลิ้นปี่ สัมพันธ์กับอาหาร โดยจะท้องอืด เหมือนอาหารไม่ย่อย หรือปวดจุกเสียดก็ได้ มักเป็นหลังอาหาร( คือทานอาหารแล้วแย่ลง) แต่ถ้าเป็น แผลในลำไส้เล็กส่วนต้น อาจเป็นที่ใต้ลิ้นปี่หรือชายโครงขวา มักปวดจุกเสียดก่อนอาหาร พอทานอาหารแล้วจะดีขึ้น
อาการปวดจากถุงน้ำดี มักเป็นที่ชายโครงขวา อาจมีร้าวไป บริเวณมุมล่างของสะบักขวาหรือบริเวณระหว่างสะบัก จะมีลักษณะที่สำคัญ คือ จะมีอาการแน่นหรืออืด หลังทานอาหารมันๆ (Fat Intolerance) หรือมีปวดท้องหลังอาหารเย็นเป็นพักๆ ที่ชายโครงขวา (Biliary Colic) ปวดจากนิ่วในท่อไต อาการปวดจะเป็นพักๆ มากบริเวณเอวด้านหลังอาจร้าวมาขาหนีบ หรือบริเวณอัณฑะ ร่วมกับมีปัสสาวะเป็นเลือด หรือเป็นสีน้ำล้างเนื้อ
ปวดจากปีกมดลูก หรือรังไข่ จะปวดบริเวณท้องน้อย ไม่สัมพันธ์กับอาหาร มักมีเลือดหรือตกขาวผิดปกติ ทางช่องคลอดร่วมด้วย
จะสังเกตว่าอาการปวดท้อง ในระยะแรกไม่ว่าจะเป็นไส้ติ่ง หรือโรคอื่นๆ ก็ตาม จะแยกกันยาก ต้องใช้การสังเกตอาการ ดังนั้น ในกรณีที่เริ่มปวดท้องที่ยังไม่ทราบว่าเป็นอะไร อย่าเพิ่งกินยาแก้ปวด ควรไปพบแพทย์ เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยก่อน เพราะการกินยาแก้ปวดจะทำให้ แพทย์วินิจฉัยแยกโรคลำบาก เนื่องจากยาจะบดบังอาการปวด

ผักบุ้ง



ผักบุ้ง : บำรุงสายตา ถอนพิษ ช่วยขับถ่าย
สำหรับอาหารสมุนไพรที่ขึ้นชื่อในการบำรุงสายตา คือ ผักบุ้ง เป็นผักที่มีวิตามินเอสูง ช่วยในการบำรุงสายตา แม้จะมีผักตัวอื่น ๆ ที่มีวิตามินเอเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้รับการระบุว่าเป็นผักบำรุงสายตาอย่างผักบุ้งเลย คนโบราณแนะลูกหลานกินผักบุ้งตาหวาน แม้ว่าจะไม่รู้ว่าผักบุ้งมีวิตามินเอที่มีประโยชน์ต่อสายตาก็ตามแต่ ผักบุ้งจึงได้ชื่อว่าเป็นผักที่เป็นมิตรกับสายตา

สรรพคุณระบุว่า แก้ตาฟางหรือตาบอดกลางคืนได้ดี ช่วยให้หายแสบตาจากอาการตาแห้ง และลดอาการปวดกระบอกตาในกรณีที่ใช้สายตาเยอะ ๆ ถ้าช่วงนี้ใครที่รู้สึกว่าปวดตา ใช้สายตาเยอะ ตาแห้ง และค่อนข้างล้า ลองกินผักบุ้งเยอะ ๆ แล้วจะพบว่ามันช่วยได้จริง ๆ การกินผักบุ้งไม่ว่าจะผักบุ้งไทย ผักบุ้งจีน ล้วนแต่มีประโยชน์ต่อการบำรุงสายตาทั้งสิ้น ถ้าใครที่กินผักบุ้งมาตั้งแต่เด็ก ๆ จนอายุมากขึ้นก็จะยังคงมีสายตาดี ไม่มีปัญหาเรื่องสายตายาว และเชื่อว่ากินประจำยังช่วยป้องกันต้อกระจกได้ด้วย ดังนั้น ผู้ปกครอง คุณพ่อ คุณแม่ ควรให้ลูกได้กินผักบุ้งเยอะ ๆ หรืออย่างสม่ำเสมอ ให้ได้รับสารบำรุงสายตาตั้งแต่เด็ก ๆ เป็นการบำรุงอย่างสะสมทรัพย์ จะเป็นการช่วยให้ลูกหลานมีสายตาดีจนชั่วชีวิตของพวกเขา
ในทางโภชนาการผักบุ้งยังมีสารสำคัญอื่น ๆ นอกเหนือจากวิตามินเอที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย อาทิ แคลเซียม วิตามินซี เส้นใยอาหาร คาร์โบไฮเดรต เหล็ก ฟอสฟอรัส มากน้อยแตกต่างกันไป ในทางการแพทย์แผนไทย ระบุว่า ผักบุ้งมีรสเย็น มีสรรพคุณถอนพิษสำแดงต่าง ๆ หรือช่วยในการขับสารพิษอออกจากร่างกายได้ หมอแผนไทยบางท่านแนะให้นำมาใช้ในการขับพิษ สำหรับเกษตรกรที่ใช้สารเคมีทางการเกษตร ซึ่งจะได้รับสารพิษอันตราย หรือใช้ในการบำบัดรักษาผู้ป่วยติดยาเสพติด ในกรณีนี้อาจใช้กับตัวยาอื่น ๆ ตามตำรับของหมอแต่ละคนเพื่อช่วยขับพิษและฤทธิ์ของยาเสพติด หรือในกรณีที่กินสารพิษ กินเห็ดพิษ ร่างกายได้รับสารตะกั่ว สารหนู โดยแนะให้เอาผักบุ้งแดงต้มเอาน้ำดื่มเป็นประจำ

10 วิธีคลายเครียด


วิธีหรือเครื่องมือที่จะช่วยในการผ่อนคลายความเครียด ที่ทำได้ง่ายๆ ก็เท่ากับว่าเรามีหมออยู่ใกล้ๆ ตัว โดยเคล็ดลับการผ่อนคลายทางจิตอย่างง่ายๆ 10 ประการ ที่ใครก็ทำได้ ได้แก่
1.การใช้ชีวิตให้ช้าลงความเร่งรีบของชีวิตเป็นสาเหตุใหญ่ของความเครียดในปัจจุบัน ถ้าวางแผนตารางชีวิตได้เหมาะสม ความเร่งรีบก็จะลดลง ความเครียดก็จะลดลงตามไปด้วย
2.ออกกำลังกายแบบแอโรบิกเป็นประจำเช่น เดินเร็ว วิ่งเหยาะๆ ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ หากทำเป็นประจำจะช่วยเพิ่มปริมาณเลือดไปเลี้ยงสมอง สมองจะหลั่งฮอร์โมนความสุข ส่งผลให้จิตใจโปร่ง เบา สบาย และมีความสุข
3.การเข้านอนหัวค่ำตื่นแต่เช้า ช่วงแรกจะต้องใช้จิตตนเองกล่อมให้หลับ และปลุกให้ตื่น ตรงตามเวลาก่อน หลังจากนั้นฮอร์โมนภายในร่างกายจะช่วยให้การหลับตื่นเป็นไปเองตามอัตโนมัติ ส่งผลให้จิตใจและสมองสดชื่น แจ่มใสอยู่เสมอ
4.ฝึกหายใจลึกและช้า โดยหายใจเข้า ท้องจะพองออก หายใจออก ท้องจะยุบลง หากอัตราการหายใจไม่เกิน 10 ครั้งต่อนาที จะช่วยให้จิตผ่อนคลายลงได้มากทีเดียว
5.การฝึกชี่กง ไท้เก๊ก โยคะ โดยจิตจับจ้องจดจ่อไปที่ท่าทางการเคลื่อนไหว สอดคล้องกับช่วงจังหวะการหายใจ จะทำให้จิตนิ่ง สงบและผ่อนคลาย
6.การฝึกยิ้ม หัวเราะ มีอารมณ์ขันจะช่วยให้เรามีอารมณ์ดีในทันที แถมจะได้รอยยิ้ม หัวเราะ และอารมณ์ขันจากคนรอบข้างกลับมาอีกด้วย ช่วยให้ผ่อนคลายความ เครียดได้
7.การฝึกทำสมาธิซึ่งมีหลายอารมณ์ หลายวิธีการ จะช่วยทำให้จิตสงบ คลื่นสมองจะช้าลง และมีระเบียบมากขึ้น จิตผ่อนคลาย ร่างกายเป็นสุข
8.การใช้ศิลปะบำบัด เช่น การร้องเพลง เล่นดนตรี การเต้นรำ การวาดรูป ทำงานศิลปะ จิตจะจดจ่อกับกิจกรรมที่ผ่อนคลาย ลืมความทุกข์ความวิตกกังวลได้ดีทีเดียว
9.การรับพลังธรรมชาติการได้เปลี่ยนบรรยากาศจากที่จำเจไปสู่ธรรมชาติ เช่น ภูเขา ต้นไม้ ทะเล สายลม แสงแดด จะช่วยให้จิตใจผ่อนคลาย เป็นสุข และยังเป็นการรับพลังจากธรรมชาติเข้าสู่ตัวเราอีกด้วย
10.การสวดมนต์ อธิษฐานจิตจิตน้อมไปในคุณพระศรีรัตนตรัย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราเคารพ รวมทั้งคุณงามความดีที่เราได้กระทำมาในอดีต จะเป็นพลังจิตอย่างมหาศาลให้กับเรา ช่วยให้จิตเราสงบ เย็นและเป็น สุข

วันจันทร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล คลองหก



เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 53 บริเวณลานจอดรถอเนกประสงค์ภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ต.คลองหก อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ได้มีการจัดงาน เทิดทูนสถาบันของชาติ เพื่อเสริมสร้างความสมานฉันท์ โดยภายในงานมีการออกบู๊ทบริการประชาชนของหน่วยงานราชการในจังหวัดปทุมธานี เช่น จัดหางานจังหวัด สาธารณสุขจังหวัด ขนส่งจังหวัด กศน.อำเภอธัญบุรีมาให้บริการ สอนอาชีพ อาทิ เช่น การทำกุหลาบจากผ้าเช็ดหน้าขนหนู การทำดอกไม้สับปะรด สานดอกไม้จากใบเตย การจัดกิจกรรมส่งเสริมรักการอ่าน จากห้องสมุดประชาชน "เฉลิมราชกุมารี" อำเภอธัญบุรี เป็นต้น
โดยเวลา 17.00 น. ได้มีการจัดงานคอนเสริ์ต โดยนักร้องชั้นนำของเมืองไทย ได้แก่ พลพล พลกองเส็ง วงคาราบาว และ ปาน ธนพร โดยมี นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในการจุดเทียนชัยถวายพระพรและกล่าวนำสรรเสริญพระบารมี โดยมีนาย ปรีชา บุตรศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี นายเลอเกียรติ แก้วศรีจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี นายพันธ์เทพ ศรีวนิชย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี นายชาญ พวงเพ็ชร์ นายก อบจ.ปทุมธานี และสมาชิก นายธีรวัฒน์ หลีนวรัตน์ นายกเทศมนตรี ตำบลธัญบุรี และข้าราชการ ลูกจ้าง จังหวัดปทุมธานี ร่วมงาน
การจัดงาน เทิดทูนสถาบันของชาติ เพื่อเสริมสร้างความสมานฉันท์ เป็นการแสดงที่ยิ่งใหญ่และแปลกตาเป็นที่ฮือฮากับผู้ร่วมงาน โดยเฉพาะ การแสดงภาพยนตร์ม่านน้ำเฉลิมพระเกียรติ เรื่อง “พ่อ The Greatest of the King , The Greating of the Land

กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน บิ๊กซีคลองหก

ห้องสมุดประชาชน"เฉลิมราชกุมารี" อำเภอธัญบุรี สังกัด กศน.อำเภอธัญบุรี
ร่วมกับสำนักงานพัฒนาที่ดิน เขต 1 จัดโครงการส่งเสริมรักการอ่านเพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต บริเวณหน้าห้างบิ๊กซี คลองหก ภายในงานประกอบด้วย การรับสมัครสมาชิกใหม่ห้องสมุด แนะนำหนังสือใหม่ และการแจกหนังสือ
สำหรับผู้ที่เข้าร่วมโครงการฯ